เกิดอะไรขึ้นที่กวางจู? 5 หนังเล่าเหตุการณ์ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในเกาหลีใต้!


            อันยองน้องๆ ชาว Dek-D ทุกคนค่ะ ถ้าพูดถึงหนึ่งประเทศที่เคยเผชิญกับรัฐบาลเผด็จการทหารอันเลวร้ายก็คงจะอดนึกถึงประเทศเกาหลีใต้ไปไม่ได้ เพราะต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 40 ปี แต่เหตุการณ์การเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น ณ เมืองกวางจูก็ไม่เคยเลือนหายไปจากใจของประชาชนเกาหลีใต้ได้เลย
 
            และสำหรับน้องๆ คนไหนที่ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่กวางจูในตอนนั้น จุดเริ่มต้นเกิดจากอะไร และมีข้อคิดอะไรที่เราควรศึกษาเอาไว้บ้าง? วันนี้เราเลยถือโอกาสหยิบยกภาพยนตร์ 5 เรื่องที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์และบาดแผลทางการเมืองของชาวเกาหลีใต้มาให้น้องๆ ได้ดูกัน แต่ละเรื่องจะสะท้อนให้เห็นถึงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์อย่างไร ภาพความทรงจำที่ยังชัดเจนของพวกเขาจะทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ได้หรือไม่ ไปหาคำตอบกันค่ะ!
 
Photo credit: https://518org.wordpress.com
 

เกิดอะไรขึ้นที่กวางจู?
 

                    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 1980 ซึ่งเกาหลีในยุคนั้นมีระบอบการปกครองแบบเผด็จการทหาร (ภายใต้ ‘ชุนดูฮวาน’ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี) ทำให้ประชาชนขาดอิสรภาพ รวมถึงเกิดความไม่ยุติธรรมจนทำให้สังคมเกาหลีในตอนนั้นเกิดความบิดเบี้ยวไปมาก และนั่นก็ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ลุกขึ้นออกมาประท้วงครั้งใหญ่ที่เมืองกวางจู เพื่อเรียกร้อง ‘ประชาธิปไตย’ ให้กับประเทศเกาหลีใต้นั่นเองค่ะ  
 
            และเมื่อเกิดการชุมนุมประท้วงเกิดขึ้น ทางรัฐบาลก็ได้ส่งทหารและตำรวจจำนวนมากเข้าไปปราบปรามผู้ชุมนุมที่เห็นต่างทางการเมืองอย่างโหดร้ายทารุณ ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เด็กหนุ่มหรือคนแก่ พวกเขาก็ใช้กำลังทำร้าย ข่มขืนนักศึกษาหญิง และก็ลงมือฆ่าคนเห็นต่างอย่างเลือดเย็น ซึ่งการสลายผู้ชุมนุมในครั้งนี้ใช้เวลายืดเยื้อกว่า 10 วันเลยค่ะ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายและผู้สูญหายมากมายนับไม่ถ้วน แม้แต่ร่างไร้วิญญาณของพวกเขาก็ยังถูกทิ้งอย่างไร้เยื่อใย กองรวมกันไว้บ้าง ฝังบ้าง ทิ้งลงน้ำทะเลบ้าง ซึ่งยอดรวมทั้งหมดทั้งผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัด อย่างล่าสุดเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งค้นพบศพราว 40 ศพที่เรือนจำเก่าเมืองกวางจูเพิ่มเติม และยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมากที่ครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง 
 
Photo credit: http://asianwiki.com/May_18
 
             และถึงแม้ว่าในปี 1996 อดีตประธานาธิบดีชุนดูฮวานจะถูกศาลจังหวัดในกรุงโซลพิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิต แต่สุดท้ายเขาก็ยังรอดและได้รับการอภัยโทษในปีถัดมา และนั่นก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ยังคงขุ่นเคือง โกรธแค้น แคลงใจ และเฝ้าถามถึงความยุติธรรมและคำขอโทษจากรัฐบาลทหารชุดนี้อยู่เสมอ และในขณะเดียวกันทางเกาหลีใต้เองก็ยังมีการขุดคุ้ยคดีนี้เพื่อเอาผิดกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในครั้งนั้นอยู่เลย บางคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น ตอนนี้อายุก็เยอะมากๆ แล้ว แต่ยังต้องขึ้นโรงขึ้นศาลทุกวันนี้อยู่เลยค่ะ  
 
             และถ้าใครยังไม่เห็นภาพหรือยังเข้าไม่ถึงความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในเมืองกวางจู พี่ก็เชื่อว่าหนัง 5 เรื่องที่พี่นำมาฝากในวันนี้จะช่วยอธิบายเหตุการณ์การลุกฮือครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ให้น้องๆ ได้รับรู้และเข้าใจกันค่ะ
 

5 ภาพยนตร์ย้อนรอยเหตุการณ์สังหารหมู่ที่กวางจู
 

May 18 (2007)
 


            ‘May 18’ เป็นหนึ่งในผลงานการกำกับของ ‘คิมจีฮู’ หนังเรื่องนี้ได้เล่าเหตุการณ์การสังหารหมู่ในกวางจูไว้อย่างละเอียดและครบถ้วน เนื้อเรื่องดำเนินไปตามวันเวลาและประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน โดยมี 4 นักแสดงนำ คังมินอู (รับบทโดย คิมซังคยอง) คนขับแท็กซี่ที่อาศัยอยู่กับน้องชาย คังจินอู (รับบทโดย อีจุนกิ) เขากำลังตามจีบพยาบาลสาว พัคชินแอ (รับบทโดย อีโยวอน) ผู้เป็นลูกสาวของอดีตนายพลใหญ่ พัคฮึงซู (รับบทโดย อันซังกิ) ดูเผินๆ หนังเรื่องนี้ก็ดูจะเป็นหนังรักโรแมนติกทั่วไป แต่ไม่นานความดาร์กและความเลวร้ายของระบบเผด็จการก็ได้ปรากฏให้เราเห็น
 
             เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งดำเนินไปพร้อมบรรยากาศการเรียกร้องประชาธิปไตยและความสูญเสียของประชาชนและนักศึกษาผู้บริสุทธิ์ บอกเลยว่าถ้าใครใจไม่แข็งพอก็อาจจะดูต่อไม่ไหว เพราะทุกองค์ประกอบของหนังเรื่องนี้ถูกสร้างอย่างสมจริงมาก ทั้งฉาก สถานที่ และเสื้อผ้าหน้าผมนักแสดง อีกทั้งภาพเหตุการณ์ที่เหล่ากองทัพทหารทำร้ายประชาชนมันยังชัดเจน รุนแรง และมีผลกระทบต่อจิตใจของคนดูไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าถ้าใครชื่นชอบประวัติศาสตร์และอยากเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพสังคมของเกาหลีใต้ในปี 1980 หนังเรื่องนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่น้องๆ ควรมีไว้ในลิสต์เลยค่ะ
 

The Old Garden (2006)
 

 

            อีกหนึ่งหนังรักโรแมนติกที่สอดแทรกเรื่องราวประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไว้อย่างซาบซึ้งตรึงใจ ‘The Old Garden’ เล่าถึงชีวิตของ ‘โอฮยอนอู’ (รับบทโดย จีจินฮี) นักโทษทางการเมืองที่ถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากที่ต้องใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่ในคุกนานกว่า 17 ปีเพียงเพราะเขามีอุดมการณ์ที่แนวแน่และแค่เห็นต่างทางการเมือง เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้พรากแค่เวลาที่มีค่าไปจากเขา แต่มันยังพรากความรักที่งดงามและหญิงสาวที่เขารักสุดหัวใจไปตลอดกาลอีกด้วย
 
             ย้อนกลับไปในช่วง Seoul Spring หรือช่วงฤดูใบไม้ผลิของเกาหลีใต้ โอฮยอนอูเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่รักการทำกิจกรรมและเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ประชาชนทุกคน ความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับอำนาจเผด็จการนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ว่ามันถูกหรือผิด หนังเรื่องนี้นำเสนอทั้งเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัว ความรักที่ยากลำบากของหนุ่มสาว ความซื่อสัตย์ ความเสียสละ และความอดทนของผู้คนในยุคสมัยนั้น ชีวิตของโอฮยอนอูหลังออกมาจากคุกจะเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมจะผลักดันให้เขากลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้งได้หรือใหม่ ตามไปเอาใจช่วยกันค่ะ!
 

Peppermint candy (1999)
 

 
                     
            หนังดราม่าที่เปิดฉากมาด้วยการฆ่าตัวตายของ ‘ยองโฮ’ พลทหารประจำการผู้มีส่วนในการปฏิบัติการสลายการชุมนุม ณ เมืองกวางจู ‘Peppermint Candy’ พาเราย้อนไปดูเรื่องราวขณะที่ตัวละครหลักยังเป็นทหารในการปราบปรามผู้ชุมนุมและได้กลายมาเป็นตำรวจที่ทำหน้าที่สอบสวนผู้เห็นต่างทางการเมือง ก่อนหน้าที่เขาจะเข้ามารับใช้รัฐบาลเผด็จการ ยองโฮเป็นเพียงชายหนุ่มไร้เดียงสาที่ได้มาพบรักกับ ‘ซูนิม’ หญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน เธอทำให้โลกของยองโฮสดใสและกลายเป็นสีชมพูได้ในทันตา แต่แล้วพวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อความรักของพวกเขาต้องพังลงด้วยสงคราม TT
 
             ภาพเหตุการณ์ที่เขาได้ทรมานผู้ต้องหาและลั่นไกฆ่าเด็กสาวคนหนึ่งที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยมันกลายมาเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในจิตใจของเขา เขารู้สึกผิดและรู้สึกว่าตนเองไม่มีค่าพอที่จะได้รับความรักหรือแม้แต่จะอยู่บนโลกใบนี้ แต่นั่นจะใช่เหตุผลที่ทำให้ยองโฮตัดสินใจจบชีวิตลงอย่างน่าสะเทือนใจหรือไม่ ตามไปหาคำตอบได้ในหนังเรื่อง Peppermint Candy เลยค่า
 

A Taxi Driver (2017)
 

 

            การที่เมืองกวางจูถูกปิดตายและถูกตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอกทำให้ไม่มีใครรับรู้ถึงเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้นภายในเมืองเล็กๆ นี้ จนกระทั่งนักข่าวชาวเยอรมันคนหนึ่งตัดสินใจลักลอบเข้าไปในกวางจูเพื่อบันทึกภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นั่นออกมาทำข่าวให้ประชาชนเกาหลีใต้ในเมืองอื่นๆ ได้รับรู้ การลักลอบครั้งนี้จะไม่มีทางสำเร็จได้ถ้าไร้ซึ่งความช่วยเหลือของชายคนขับรถแท็กชี่คนหนึ่ง หลายปีต่อมาเรื่องราวชีวิตและความกล้าหาญของชายผู้นี้จึงถูกนำมาบอกเล่าและถ่ายทอดไว้ในหนังเรื่อง ‘A Taxi Driver’ นี้นี่เองค่ะ
 
                        ‘คิมมันซอบ’ (รับบทโดย ซงคังโฮ) คนขับแท็กซี่ที่อาศัยอยู่กับลูกสาวในกรุงโซล วันหนึ่งเขาถูก ‘ปีเตอร์’ (รับบทโดย โทมัส เคร็ทสช์แมนน์) นักข่าวชาวเยอรมันที่ต้องการจะเข้าไปทำข่าวในกวางจูว่าจ้างให้ขับรถไปส่ง เมื่อไปถึงเขาจึงได้รู้ว่าที่นั่นมีการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพยายามเก็บภาพความเคลื่อนไหวของเหล่าประชาชนและนักศึกษาออกมาถ่ายทอดให้ชาวโลกได้รู้ พวกเขาก็ถูกตามล่าและได้สัมผัสกับความโหดร้ายทารุณต่างๆ นานาด้วยตนเอง ภาพเหล่านั้นไม่เคยจางหายแต่กลับกลายมาเป็นบาดแผลในใจของชายคนขับแท็กซี่จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต แต่นอกจากภาพความรุนแรงแล้ว A Taxi Driver ก็ยังถ่ายทอดเรื่องราว “มิตรภาพ” ระหว่างคุณนักข่าว ชายคนขับแท็กซี่ และนักศึกษาที่มาชุมนุมเอาไว้อย่างน่าประทับใจจนได้เป็นตัวแทนหนังเกาหลีที่เข้าชิง สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม ในงานประกาศรางวัลออสการ์ในปีนั้น การันตีคุณภาพขนาดนี้คงต้องจัดให้ A Taxi Driver เป็นหนังดีที่ห้ามพลาดแล้วละค่ะ
 

26 Years (2012)
 

 

            หนังเรื่องนี้เปรียบเสมือนสมุดบันทึกที่รวบรวมเรื่องราวของประชาชนชาวเกาหลีใต้ที่ได้รับผลกระทบและต้องเผชิญกับความสูญเสียจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในกวางจูเมื่อปี 1980 แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ผู้สูญเสียก็ไม่เคยได้รับการเยียวยาหรือคำขอโทษจากทหารผู้บัญชาการในตอนนั้นเลย ตัวละครหลักในหนังทั้ง 5 จึงเป็นเหมือนตัวแทนของประชาชนเกาหลีใต้ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันก็คือ ‘การแก้แค้นและต่อต้านความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปีก่อน’ (นับจากปี 1980 – 2006) นั่นเอง
 
             ‘26 Years’ ถูกดัดแปลงมากจากเรื่องแต่งฉบับการ์ตูนที่พูดถึงการรวมตัวของผู้รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ในกวางจูเพื่อชำระแค้นและวางแผนลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีชุนดูฮวาน หลังจากที่เหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้พวกเขาต้องเสียครอบครัวและคนรักไป พอได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วคิดตามมันก็แอบอึดอัดเหมือนกันค่ะ เพราะไม่ว่าตัวละครของเราจะพยายามต่อสู้กับความอยุติธรรมมากแค่ไหน ผู้มีอำนาจที่สร้างบาดแผลทางใจให้พวกเขาก็ยังลอยนวล อีกทั้งยังได้รับการปกป้องจากตำรวจทหารที่จริงๆ แล้วควรจะอยู่ข้างประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยซ้ำ รับรองว่าใครได้ดูเรื่องนี้จะต้องเข้าถึง เข้าใจ และอินไปกับทุกตัวละครแน่นอนค่ะ (เพราะอะไรก็คงไม่ต้องบอกเลยนะคะ55555)
 
Photo credit: https://518org.wordpress.com
 
            ต้องยอมรับเลยค่ะว่ากว่าที่กระบวนการประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นในเกาหลีใต้นั้นมันไม่ง่ายและต้องใช้เวลานานหลายปี ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องเสียสละทั้งชีวิตและจิตวิญญาณเพื่อต่อสู้กับระบอบเผด็จการทหารที่แข็งแกร่ง และแม้ว่าประวัติศาสตร์อันโหดร้ายครั้งนั้นจะทำให้อำนาจอันชอบธรรมกลับมาสู่อ้อมอกของประชาชน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับการดูแลและเยียวยาอยู่ดี สุดท้ายนี้พี่ก็หวังว่าหนังทั้ง 5 เรื่องที่พี่ได้หยิบยกมาในวันนี้จะทำให้น้องๆ ได้เข้าใจเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเกาหลีใต้และได้รับข้อคิดต่างๆ ที่หนังแต่ละเรื่องได้ฝากไว้ด้วยนะคะ ^^
 
ทีมเรียนต่อนอก

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น